วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 26, 2548

เมื่อเจอร์ราดรับบทเล่นแบ็กขวา??
วันนี้เดอะค็อปหลายๆคนคงมีความสุขน่าชื่นตาบานกันถ้วนหน้าเมื่อหงส์แดง Liverpool ช็อกโลกหลังจากโดนนำตั้งแต่นาทีแรก 1-0 ด้วยลูกวอลเลย์เท้าขวาของกัปตันทีมอมตะอย่าง มัลดินี่ แล้วตามมาอีกสองเม็ดด้วยยอดศูนย์ชาวอาเจนไตน์ เฮอนัน เครสโปฟอร์มการเล่นของ Liverpool ในครึ่งแรกสู้ AC Milanไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับมาตีเสมอได้อย่างเหลือเชื่อ 3 ลูกซ้อน ด้วยประตูเบิกร่องของยอดกัปตันทีมไดนาโมอย่าง สตีเฟ่น เจอร์ราด ตามด้วยลูกยิงเสียบหน้าต่างอย่างงดงามของ วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์ แล้ว Liverpoolก็ได้จุดโทษ ยิงโดย ซาบี อลองโซ่ ยิงแล้วตามไปซ้ำได้ หลังจากนั้นราฟา เบนิเตส เปลี่ยนโดยใช้แทคติกสร้างกำแพงเหล็กเล่นรับเต็มตัวโดยใช้หลังถึง 5 ตัว โดยดึงเจอร์ราดลงมาเล่นแบ็กขวา เพื่อต่อสู้กับความเร็วของคู่กองหน้ามิลานซึ่งนานๆจะได้เห็นซักครั้ง(โดยส่วนตัวเพิ่งจะเคยเห็น)เห็นคนพากย์บอกว่าเจอร์ราดเคยเล่นตำแหน่งนี้มาก่อนที่จะดังแต่ก็อดขำนิดๆไม่ได้ จากมิดฟิลด์ตัวรับ ไปเป็นตัวรุก แล้วมาเป็นแบ็กขวา !!ต่อเวลาพิเศษครึ่งแรกไม่มีอะไร ครึ่งมิลานได้ลุ้นจังหวะที่อังเดร เชฟเชนโก้ ยิงแล้วโดนปัดมายิงซ้ำก็โดนเซฟได้อีก เป็นผลงานที่น่าประทับใจที่สุดของดูเดก ตลอดทั้งเกมยิงจุดโทษดูเดก ก็ทำได้ดีอีกเมื่อเซฟลูกจุดโทษของปิร์โล่ และเชฟเชนโก้ ได้ จนทำให้ Liverpool คว้าแชมป์ถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของยุโรป หลังจากรอคอยมานานถึง 20 ปี!

.....................
เกมนี้คงต้องยกเครดิตกับหัวใจนักเตะ Liverpool ทุกคนที่มีความมุ่งมั่นกับชัยชนะนัดนี้มากถึงแม้ว่าจะยังไม่แน่ว่าฤดูกาลหน้าจะได้มาเล่นถ้วยใบนี้อีกใหม่ เนื่องจากทางยูฟ่ายังนั่งยันยืนยันว่าถึงเป็นแชมป์ก็ไม่ได้มาเล่น ถ้าไม่ติด top 4 ของพรีเมียร์ลีก(คงคิดว่า Liverpool ไม่มีทางได้แชมป์) แต่โดยส่วนตัวคิดว่าทาง FA ของอังกฤษของยื่นคำร้องและน่าจะได้มาป้องกันแชมป์(แต่ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เน้นเกมลีกให้มากกว่าเดิม) และต้องยกเครดิตให้กับกองเชียร์เดอะค็อปที่ถึงแม้จะตามอยู่ถึง 3 ลูกแต่ก็ยังร้องเพลงเชียร์กึกก้องเหมือนเดิม เป็นกองเชียร์ที่น่าประทับใจเกมในครึ่งแรกดูนักเตะ Liverpool ดูจะเกร็งกับเกมใหญ่ๆแบบนี้ไปหน่อยทำให้เล่นได้ไม่ดียิ่งเสียประตูเร็วมากก็ยิ่งรวนเละเทะเข้าไปใหญ่ เนื่องจากต้องบุก แต่ก็ขึ้นเกมได้ไม่ถนัด ทั้งปีกและกลาง พอโดนตัดบอลเมื่อไหร่ เสียกระบวนท่าทุกทีไม่แปลกที่สกอร์ครึ่งแรกถึงได้ไหล ลูกจ่ายของกาก้า คมกริบมากๆ ยิ่งเล่นหน้าสองมีให้เลือกจ่ายทั้งเครสโป และเชฟเชนโก้ ตีนจรวดทั้งคู่ยิ่งสบายเข้าไปใหญ่ ทำเอา ฌีมี่ ตราโอเร่ เล่นบอลไม่เป็นไปเลย ถ้าเกมนี้Liverpool แพ้ตราโอเร่คงโดนด่ายับ เพราะเล่นห่วยแตกที่สุดตามเกมมิลานไม่ถัดเลย เสียตำแหน่งตลอดมีจ่ายพลาดง่ายๆให้เห็นด้วย (สงสัยจะเกร็งเกินไป) ครึ่งแรกกลาง Liverpool ก็ทำอะไรไม่ได้ทั้งเจอร์ราด ทั้งซาบี อลองโซ่ เอา กาก้า ไม่อยู่จริงๆ หลังก็เอาเชฟเชนโก้ไม่อยู่เร็วมากๆ ต้องเข้าทีละ 3 ตัวถึงจะอยู่ ก่อนเกมคิดว่าไม่น่าจะมีอะไรแต่เค้าคือนักเตะระดับโลกจริงๆ ครึ่งหลังมา Liverpool ปรับหมากโดยให้ดีดี้ ดีทม่าห์ ฮามัน รับบทมิดฟิลด์ตัวรับ คู่กับ ซาบี อลองโซ่ ดันเจอร์ราด ขึ้นสูง ซึ่งเป็นผลนำมาซึ่งประตูแรกเป็นการปรับหมากที่ฉลาดเฉียบคมของ ราฟาเอล เบนิเตส เนื่องจาก ฮามัน เป็นผู้เล่นซึ่งมีความนิ่งสูง มากด้วยประสบการณ์ ไว้ใจได้ สามารถรับมือกับเกมแบบนี้ได้ดี เข้ามาคุมจังหวะการเดินเกมของ Liverpoolยิ่งตอนยิ่งจุดโทษความรู้สึกตอนนั้นไม่มีกลัวเลยว่า ฮามันจะยิงไม่เข้า พูดถึง Liverpool ใช้หน้าตัวเดียวครึ่งแรกใช้บริการมิลาน บารอส ก็ทำได้ดี ถึงแม้จะยิงไม่ได้ แต่เจอหลังสตาร์ระดับโลกก็ไปไม่ไหวเหมือนกันส่วนซิสเซ่ที่ลงมาครึ่งหลังก็มุ่งมั่นดี ความเร็วจัดจ้านเหมือนกัน ซึ่งหลังจากจบเกมดูเหมือนจะดีใจมากกว่าเพื่อนหลังจากย้ายจากโอแซร์ มา Liverpool เล่นได้ไม่กี่นัดก็ขาหัก ทีแรกคิดว่าต้องพักเป็นปี แต่กลับมาเร็วกว่าที่คาดไว้ซึ่งลงเล่นได้ตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาล ซึ่งคงจะทำให้เจ้าตัวมีความสุขมากๆ หลังจากคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกก็คงจะทำให้นักเตะ Liverpool มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเยอะ คิดว่าฟอร์มในลีกฤดูกาลหน้าคงจะดีขึ้นมากและน่าจะทำให้ Liverpool กลับมาเป็นทีมที่มีความแน่นอนในการเล่น ฟอร์มการเล่นที่ดีขึ้น และคงมีนักเตะดีๆอีกหลายคนเชื่อมั่นใน Liverpool แล้วย้ายเข้ามาค้าแข้งในถิ่นแอนฟิลด์อีกหลายราย.....
Special Report by
ZDK

2 ความคิดเห็น:

pathompol กล่าวว่า...

นัดนี้โคตร Entertain เลยอ่ะ
กำลังจะเลิกดูอยู่แล้วเชียว พี่ท่านเล่น
ยิงพรวดๆ ตั้งตัวไม่ทัน สะจายๆ

... ใน Office วันนี้มีคนลางานเยอะจัง

ziddik::zdk กล่าวว่า...

เสียววูบวาบๆ... มันส์มาก
(หัวหน้าไม่อยู่ เลยเขียน blog เล่น 55+)
ทีแรกก็เซ็งเหมือนกัน แต่อยากดูมาหลายวัน
เลยทนดูไปก่อน ไม่ผิดหวัง ^^